*** '40 รัก'...ที่คุณควรรู้ ***
















1.อารมณ์หึงเกิดขึ้นได้ทั้งชายและหญิง แต่อารมณ์หึงของผู้หญิงจะซับซ้อนกว่าผู้ชาย


2. ผู้ชายร้อยละ 90 ชอบผู้หญิงสวย น่ารัก แต่ผู้ชายร้อยละ 100 อยากอยู่กับผู้หญิงฉลาดและเฉลียว


3. คนที่มีแฟนขี้หึงขั้นรุนแรงมีเพียง0.000001 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ชอบ นอกนั้นรู้สึกว่าอึดอัด ผู้ชายทั้ง หลายควรจะดีใจที่มีแฟนขี้หึงซะ


4.ไม่เคยมีคู่ไหนไม่ต้องใช้ความอดทนในการรัก เพียงแต่จะเป็นการอดทนในรูปแบบไหนเท่านั้นเอง


5. คนที่มีกิ๊กนอกเหนือจากแฟนตัวจริง คือคนที่ไม่ศรัทธาในความรัก


6. อย่ากลัวการอกหัก เพราะไม่เคยมีใครตายจากโรคอกหัก มีแต่ความอ่อนแอเท่านั้นที่ทำให้ฆ่าตัวตาย


7. ความรักมักไม่เกิดตอนที่เฝ้ารอ แต่เมื่อปล่อยตัวตามสบาย ความรักมักจะมาทำเซอร์ไพรส์ให้หัวใจ


8. ถึงจะไว้ใจเพื่อนแค่ไหน ก็อย่าให้เพื่อนกับแฟนของเราสนิทกันเกินไปเพราะ หายนะอาจตามมา


9.ถ้าเรารู้สึกอายเวลาเดินเคียงข้างแฟนที่ขี้เหร่ นั่นหมายความว่าเราไม่ได้รักเค้าจริง


10.อย่าบ่นให้ใครฟังว่าแฟนไม่เคยทำตัวดีขึ้นเลย เพราะจะโดนย้อนว่า ' แล้วจะโง่ทนคบอยู่ทำไม'


11. ถ้ารู้ตัวว่าเป็นคนที่ขี้หึงขั้นรุนแรง อย่าได้เลือกคบผู้ชายที่หน้าตาและมนุษยสัมพันธ์ดีเด็ดขาด


12. การที่ผู้ชายมองผู้หญิงสวย เซ็กซี่ จนเหลียวหลัง ไม่ได้หมายความว่าเข้าต้องการแฟนที่เป็นแบบนั้น


13. ผู้ชายที่ไว้ใจได้ว่าไม่นอกใจแฟนหรือภรรยา มีเพียงแต่ผู้ชายที่อยู่ในโลงเท่านั้น ควรจำให้ขึ้นใจ


14. พยายามทำตัวให้ดีและมีคุณค่ามากกว่าผู้หญิงที่แย่งแฟนเราไป แล้วซักวันแฟนเราจะกลับมาเอง


15. อย่าคบกับผู้ชายที่เอาเรื่องแฟนเก่ามาพูดเสียๆหายๆ เพราะเราอาจจะเป็นรายต่อไป


16. ผู้ชายที่รักสัตว์ รักเสียงเพลง รักครอบครัว น่าคบมากกว่าผู้ชายที่รักตัวเองซะอีก


17. อายุที่มากขึ้นอาจทำให้ต้องลดเสปกชายในฝันลง แต่ข้อที่ไม่ควรลดเด็ดขาดคือความดีและความจริงใจ


18. ผู้ชายที่เกาะชายกระโปรงผู้หญิงกิน ดูน่ารังเกียจกว่าผู้หญิงที่ชอบปอกลอกผู้ชายหลายเท่า


19. มนุษย์ผู้ชายมีน้อยกว่ามนุษย์ผู้หญิง ผู้ชายที่ดีและเป็นโสดก็มีน้อยกว่าผู้ชายที่เลวและมีเจ้าของด้วย


20.อย่ารักผู้ชายที่ทั้งขี้เหร่ ขี้เกียจ และขี้เมา เพราะเราจะต้องรู้สึกตกนรกไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน


21.คู่รักที่เดินกอดจูบกันต่อหน้าชุมชน มีแต่ฝ่ายหญิงเท่านั้นที่จะถูกประณามและดูถูกอย่างรุนแรง


22. เซ็กส์ไม่สามารถผูกมัดให้คู่รักอยู่ด้วยกันไปตลอด ความผูกพันต่างหากที่จะดึงรั้งกันไว้ได้


\23. อายุไม่ใช่อุปสรรคของความรัก ถ้าความคิดหัวใจตรงกัน ความมั่นคงก็เกิดขึ้นได้


24.ในชีวิตจริงของความรัก เราอาจไม่ใช่นางเอกที่แสนดี บางทีต้องมีการใช้ ไหวพริบในการแย่งชิงบ้าง


25.คนสวยหรือคนหล่อสามรถอกหักได้เหมือนกัน ถ้าทำตัวไม่ดีหรือมีเวลาให้กับความรักไม่พอ


26. ถึงจะได้ยินว่ามีรักที่ไหนมีทุกที่นั่น แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังเลือกที่จะมีความรัก มากกว่าจะอยู่เป็นโสด


27. เรื่องที่แฟนไม่ยอมเล่าให้ฟังตั้งแต่แรกมักเป็นเรื่องที่เรารู้เมื่อไหร่ก็ต้องควันออกหูอยู่ดี


28.ถ้าชื่นชมในตัวแฟน 100 เปอร์เซ็นต์ ควรบอกเค้าแค่ 70 เปอร์เซ็นต์


29 .ถึงผู้ชายจะบอกว่าไม่ชอบผู้หญิงแต่งหน้า แต่ผู้ชายก็ไม่ชอบคนที่หน้ามันหรือซีดตลอด


30.ผู้ชายชอบติรูปร่างของแฟนหรือคนโน้นคนนี้ โดยลืมดูรูปร่างตัวเองว่าแย่ขนาดไหน


31. คนต่างชาติต่างภาษาสามารถรักกันได้ เพราะภาษาหัวใจเป็นภาษาสากลที่ไม่ต้องการคำแปล


32. ผู้ชายต้องใช้สมองและทักษะมากขึ้นในช่วงที่มีความรัก เพราะผู้หญิงมักปากไม่ตรงกับใจ


33.ผู้ชายชอบเป็นฝ่ายไล่ล่า มากกว่าจะเป็นฝ่ายถูกล่า ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่จะ พยายามหนีเมื่อถูกตามตื้อ


34.ผู้หญิงอาจไม่ได้เรียกร้องอะไรมากขึ้น แต่เป็นเพราะผู้ชายไม่สามารถทำดีได้เสมอต้นเสมอปลาย


35. รักแรกพบสามารถเกิดได้แค่ 10 เปอร์เซ็นต์ นอกนั้นเกิดจากการใกล้ชิด และการเรียนรู้กันอย่างลึกซึ้ง


36. คนที่เรารักกับคนที่รักเราอาจไม่ใช่คนเดียวกันเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าคนเราบังคับหัวใจกันไม่ได้จริงๆ


37. ทุกคนจะเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเมื่อได้มีความรักและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นอีกหลัง จากอกหัก


38. มือที่สามสามารถเดินเข้ามาในชีวิตเราได้ตลอดเวลา ในความไว้ใจจึงควรมี ความระวังอยู่ด้วย


39.อย่ารีบมีแฟนหลังจากอกหัก เพราะเราจะแยกแยะไม่ออกว่านั่นเป็นรักหรือการฆ่าเวลา


40. คนที่รักกันไม่จำเป็นต้องเดินจับมือหรือคุยกันตลอดทางแค่รู้สึกว่ามีกันและกันก็เพียงพอเป็น

"ความรู้สึก วิชาเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพบริหารธุรกิจ"







วิชาเตรียมฝึกประสบการณ์
ในตอนแรกผมคิดว่าต้องเป็นวิชาที่ไม่ค่อยมีอะไรมากมาย แต่เมื่อได้มาลองสัมผัสแล้วได้มาเรียนวิชานี้ทำให้รู้ว่าวิชานี้ เป็นอีกวิชาหนึ่งที่มีความสำคัญต่อตัวเราอย่างมาก เพราะวิชาเตรียมฝึกได้สอนอะไรหลายๆอย่าง ทั้งการแต่งกายให้สุภาพให้ถูกกาลเทศะ, การตรงต่อเวลาเป็นต้น และวิชานี้ทำให้เราได้ความรู้มากมายจากการเข้าไปเรียนทั้งได้จากวิทยากรที่มาช่วยอบรมเพิ่มและ ความรู้ที่ได้จากอาจารย์ที่ขึ้นไปสอนหลายๆ ท่าน ผมชอบมากเวลาที่มีวิทยากรมาให้ความรู้ เพราะมันเป็นข้อมูลที่ใหม่ และมันสามารถปรับใช้กับชีวิตจริงของเราได้เลย
ในเวลาเรียนวิชานี้ผมอาจจะหลับบ้างเป็นบางครั้งเพราะวิชานี้มันอยู่ตอนเย็นและเรียนในห้องเย็นๆ ซึ่งมันจะได้ฟิลล์มากเวลาได้เข้าไปนั่งเรียนบวกกันฝนตกนิดหน่อยทำให้เราเคลมหลับได้เลย ซึ่งผมคิดว่าหลายๆคนก็คงเป็นแบบผม
และวิชานี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิชาที่มีงานเยอะพอสมควร ยิ่งงานที่ให้เราจัดโครงการกว่าจะผ่านมาได้ก็ทำเอาเพื่อนๆแล้วผมเหนื่อยกันไปตามๆกัน แต่ที่ได้มาก็คือ ความสำเร็จที่ได้จากความสามามัคคีของเพื่อนๆทำให้เรารู้จักทำงานเป็นทีมมากขึ้น ซึ่งตอนนี้ผมมาคิดๆดูจากที่ผมได้เรียนวิชานี้มา ผมว่าผมได้อะไรหลายๆอย่าง
ได้เห็นแนวคิดใหม่ๆ วิชานี้เป็นวิชาที่ช่วยปูพื้นฐานในการเข้าสังคมในอนาคตของเราเลยก็ว่าได้

คุณเคยแพ้มั๊ย.....


คุณเคยแพ้มั๊ย
ความพ่ายแพ้... ดูแล้วไม่เป็นเรื่องที่พึงปรารถนาแต่คุณรู้ไหมว่าความพ่ายแพ้ทำให้คุณเป็นคนที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
สังคมปัจจุบันที่เต็มไปด้วยการแข่งขันแก่งแย่งตั่งแต่อนุบาลเลยทีเดียวพวกเราถูกปลุกฝังให้ตั้งเป้าหมายที่ต้องอาศัยการชนะคนอื่นๆเพื่อให้เข้าสู่เป้าหมาย
เราลองมองดูเพื่อนๆของเราจะเห็นว่าหลายๆคนเป็นคนที่แพ้ไม่ได้ ไม่ผิด พวกเขาไม่ผิดยิ่งถ้าเป็นคนที่มีการศึกษาสูง ย่อมทะเยอทะยาน มากพวกเขามุ่งที่จะชนะ ชนะ และชนะ แต่ถ้าเขาเกิดแพ้ขึ้นมาละเขาจะทนไม่ได้ และพยายามหาทางออกที่รุนแรง พวกเขาเป็นโรคแพ้ไม่เป็น
โรคแพ้ไม่เป็นนี้รุนแรงมากครับ ยกตัวอย่างเช่นในเรื่องความรัก ลองถ้าคนแพ้ไม่เป็นอกหักขึ้นมาพวกนี้จะมีปฎิกิริยาโต้ตอบที่รุนแรงมากทางออกของคนเหล่านี้อาจรุนแรงถึงขั้นฆ่ากันตายอย่างที่หนังสือพิมพ์ลงข่าวอยู่ทุกวัน
ทำไมหรือ...ก็เพราะว่าเขาไม่รู้จักการที่จะมองเหรียญสองด้าน ว่า บางครั้งในเกมชีวิต เราจะชนะเรื่อยไปนั้นคงไม่ได้จะต้องมีบางเกมที่เรา ต้องรู้จักแพ้เปล่า...ไม่ใช่ไม่สู้แต่เมื่อถึงจุดที่เราเห็นว่าเราแพ้แล้วเราก็ต้องรู้จักที่จะยอมรับมันไม่ใช่ดันทุรังที่จะเอาชนะให้ได้แต่ฝ่ายเดียว
เกมชีวิต...ถือเป็นเกมที่แตกต่างจากเกมอื่นๆรวมถึงเกมธุรกิจต่างๆที่ผู้เล่นมุ่งหมายจะเอาชนะอย่างเดียว แต่เกมชีวิตการพ่ายแพ้บางครั้ง กลับเป็นเรื่องที่มีค่ามากกว่าการชนะ
เราเคยลองถามตัวเองบางไหมว่า หากเราชนะ ชนะ และ ชนะโดยไม่รู้จักแพ้บางเลยนั้นสร้างความสูญเสียมิตรแท้ไปแล้วเท่าไรหรือทำให้เกิดศัตรูเพิ่มขึ้นมาหรือไม่แต่ถ้าเรายอมที่จะแพ้บาง เพื่อรักษา มิตรภาพอันดีผมถือว่าก็สมควรที่ยอมรับการพ่ายแพ้
หลายคนคงเคยอ่านหนังสือประเภท How toที่เน้นให้มนุษย์เกิดความ ทะเยอทะยานและมีกลยุทธ์ต่างๆเพื่อเอาชนะคนอื่นแต่ผมว่าหนังสือประเภท How to ควรจะมีเรื่องของกลยุทธ์ต่างๆ ที่จะแพ้บ้าง
หากทุกคนในโลกนี้ตั้งเป้าหมายที่จะเป็นที่หนึ่งกันหมด Okมันคือความทะเยอทะยาน แต่คุณว่าสังคมมันจะน่าอยู่ไหมหากเราย่อมเป็นที่สอง หรือที่สามแต่เราสามารถที่จะสรรสร้าง ชีวิตให้มีความสุขได้สิ่งเหล่านี้มันมีคุณค่ามากกว่าหรือไม่
ผมอ่านเรื่องราวนักธุรกิจหรือนักการเมืองที่ยิ่งใหญ่แม้ว่าในหน้าที่ การงานของพวกเขาจะทำงานได้อย่างไร้ที่ติเขาชนะมาตลอด แต่ในเกมชีวิตพวกเขากลับสอบตกเพราะเขาเอานิสัยในการเอาชนะ กลับไปใช้ในครอบครัว
เห็นบางคนเลี้ยงลูก ให้ลูกๆแข่งขันกันครับถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่เราคงต้อง คอยบอกด้วยว่าเรามีสิทธิที่จะชนะและพ่ายแพ้เท่าๆกันบางคนสงสัยว่าหากเรายอมรับที่จะพ่ายแพ้นั้นเป็นการแสดงถึงความ อ่อนแอด้วยหรือไม่ ผมกลับมองว่าความพ่ายแพ้นี้เอง ที่จะเติมเต็มความเป็นมนุษย์ของเขาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นเขาจะรู้จักดำรงชีวิตอย่างกล้าหาญที่จะเข้มแข็งต่อไปในอนาคต
การที่คนหนึ่งจะย่อมรับถึงความพ่ายแพ้ผมว่าจะต้องใช้ความกล้าหาญ อยู่ไม่น้อย
คนที่แพ้ไม่เป็นต่างหากละที่เป็นคนอ่อนแอ

ประวัติส่วนตัว

ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะครับ!

ชื่อ นาย วศิน สินเจริญกุล
ชื่อเล่น บิลลี่ หรือ บิล
อายุ 20
เกิดเมื่อ 2 มกราคม 2531
ที่อยู่ตามบัตร 193 ถ.รัตนกิจ อ.เบตง จ.ยะลา
ที่อยู่ปัจจุบัน บีพีอาพาธเมนต์ จรัลสนิทวงศ์ 50/1 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม.

การศึกษา
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น-ปลาย โรงเรียนเบตง"วีระราษฎร์ประสาน"

การศึกษาปัจจุบัน
ระดับปริญญาตรี มหาวิยาลัยราชภัฏสวนดุสิตคณะวิทยาการจัดการ โปรแกรมวิชาบริหารธุรกิจ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ

ติดต่อได้ที่
เบอร์โทร 089-4630428
E-mail Billy_kub@hotmail.com
ความรักคือ...เหตุผล

ผู้ชายส่วนมากมักจะบอกว่า...ความรักคือเหตุผล “ถ้าถามว่าทำไมผมถึงรักเธอ คงเป็นเพราะเธอน่ารักมากในสายตาผม เธอเป็นคนดี เพียบพร้อมไปทุกอย่าง เหมาะที่จะมาเป็นแม่ของลูกผม” การที่ผู้ชายจะรักผู้หญิงซักคนนึง มักจะมีเหตุผลนานาประการ ที่มาบอกว่าเขารักเธอเพราะอะไร เพราะเธอเป็นคนดี เพราะเธอน่ารักเพราะเธอเข้ากับเขาได้เพราะ...ฯลฯ นี่แหละเหตุผล
ความรักคือ...ความรู้สึก

ผู้หญิงส่วนมากมักจะบอกว่า...ความรักคือความรู้สึก “อย่าถามเหตุผลว่าทำไมฉันถึงรักเธอ ฉันไม่สามารถบอกถึงเหตุผลได้เพราะมันไม่มีเหตุผล ฉันรักเธอด้วยความรู้สึกว่ารักรักเธอด้วยความรู้สึก...ถ้าไม่ใช่เธอ..ฉันคงไม่มีความรู้สึกนี้”
การที่ผู้หญิงจะรักผู้ชายซักคนหนึ่ง มักไม่ค่อยมีเหตุผลให้คุณหรอกนะเธออาจจะอ้ำอึ้งเมื่อคุณถาม ไม่ใช่เพราะเธอไม่รัก แต่มันหาเหตุผลมาบรรยายไม่ได้ต่างหากมันคือความรู้สึกที่อยู่ในใจ มันเป็นเรื่องของความรู้สึก นี่แหละความรู้สึก....


แล้วคุณล่ะ...ความรักของคุณ...คืออะไร???